“ยูหนีไป”
“อย่ากลับมาอีก”
“ไปให้ไกลที่สุด”
“เชื่อพี่นะยู”
ผมหันไปมองร่างบางของพี่สาวที่หอบหายใจรวยริน กลิ่นเลือดคาวคละคลุ้งไปทั้งห้อง ผมไม่รีรอเข้าไปพยุงร่างของเธอมาไว้ในอ้อมกอด
“พี่ไอ ฮึก...ทำไมเป็นอย่างนี้”ผมอดที่จะกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้ เมื่อกลับมาถึงห้องพัก แล้วเห็นพี่ตัวเองนอนจมไปด้วยกองเลือด
“ยู บนนั้น”พี่ไอที่แทบไม่มีแรงชี้ไปที่เด็กห้าขวบที่นั่งตัวสั้นร้องไห้อยู่บนเตียง
“พี่ไอบอกยู ทำไมถึงเป็นแบบนี้...ฮึก เลือดเต็มไปหมดเลย พี่ไอรอยูนะ เดี๋ยว...เดี๋ยวยูไปหาผ้ามากดห้ามเลือด แล้วยูจะโทรเรียกรถพยาบาล”ผมที่กำลังจะสติแตกค่อยวางพี่สาวลงแต่กลับถูกแรงดึงเธอห้ามไว้
“เด็กน้อยของพี่ ร้องไห้ทำไม”พี่ไอดึงผมพร้อมกับยกมือซีดเซียวนั้นมาเช็ดน้ำตาให้
“พี่ไอ...”
“ยู...ยูน้อยของพี่ไม่ร้องนะ”
“ขอร้อง...ปล่อยยูไปเรียกรถพยาบาลเถอะ...ฮึก ยูขอร้อง”
“เรียกทำไมกันคะ พี่สาวสบายดี”
“พี่ไอปล่อยยู...”ผมอยากกระชากเธอออก แต่ก็ไม่กล้าทำรุนแรง
“พี่อยู่ไม่ได้...พี่ไม่มีเขา พี่อยู่ไม่ได้ เด็กนั้น...เป็นเพราะเด็กนั้น”เธอชี้ไปตรงที่เด็กอีกครั้ง
“พี่ไอ...เด็กไม่เกี่ยว”
“เป็นเพราะมัน มันคนเดียว...ยูหนีไปอย่าไปยุ่งกับมะ...”เธอพูดยังไม่ทันจบมือที่สัมผัสอยู่บนหน้าผมก็หล่นลงไป พร้อมกับลมหายใจสุดท้ายของเธอ
“พี่ไอ!”
ผมในตอนนั้นทำอะไรไม่ถูก หลังจากเห็นว่าพี่สาวไม่ได้สติก็โทรเรียกรถฉุกเฉินทันที แต่มันไม่ทันแล้ว และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พี่ไอทำแบบนี้ ช่วงหลังๆมาเหมือนเธอจะหายดีจากโรคที่เธอเป็น ผมไม่คิดเลยว่าทั้งหมดเธอก็แค่หลอกผม
ห้าวันแล้วหลังจากงานศพพี่ไอ ตอนนี้ทั้งห้องว่างเปล่าไม่มีแม้แต่กลิ่นเลือด แต่ยังคงมีเด็กคนนั้นและยังคงนั่งอยู่ที่เดิม แววตาสั่นระรัวด้วยความกลัว น้ำตาไหลมาเป็นทางแต่ไม่มีแม้แต่เสียงสะอื้น เป็นอย่างนี้ตั้งแต่วันนั้น ยังดีที่มีแม้บ้านเข้ามาช่วยเกลี่ยกล่อมให้กินอะไรบ้าง
หลังจากอะไรลงตัวก็คงถึงเวลาที่ผมกับเด็กคนนี้จะได้คุยกันเสียที
ผมเดินเข้าไปใกล้เธอหลังจากที่ละเลยเธอมาห้าวัน เธอพอได้ยินเสียงรองเท้าก็ตื่นตระหนกกว่าเดิม มือสองข้างกอดเข่าตัวเองแน่น ก้มหน้าหลบตาผม
ผมหยุดปลายเท้าข้างเตียง มองเด็กห้าขวบคนนึงที่เจอเหตุการณ์มามากมาย แต่ผมกลับไม่เคยยื่นมือเข้าไปช่วยเลยสักครั้ง
ผมค่อยๆทิ้งตัวลงบนเตียง เด็กคนนั้นขยับตัวหนีผม ตัวเธอสั่นมากกว่าเดิม
“ผมขอโทษ”ผมพูดพร้อมกลับเอื้อมมือไปดึงตัวเธอเข้ามากอด
“ผมขอโทษ”ในอ้อมกอดผมเธอร้องไห้และตัวสั่นขึ้นกว่าเดิม เสียงสะอื้นเล็กๆผุดขึ้นมา
ผมไม่รู้ว่าใจของเด็กคนนี้จะแหลกละเอียดแค่ไหน เธอจะรู้เรื่องมากเท่าไหร่ แต่ที่ผมรู้คือเธอต้องรู้สึกแย่มากแน่ตอนนี้ เหมือนกับผมที่รู้สึกแย่
“กอดได้หรอคะ...ฮึก หนูกอดคุณได้หรอ”เสียงเล็กๆที่กำลังสะอื้นอยู่เอ่ยถาม
“กอดได้ กอดผมได้เท่าที่คุณอยากกอด”
“หนู...ฮึก. หนูมีคนให้กอดแล้ว ฮึก”
แค่คำพูดไม่กี่ประโยคของเธอทำเอาผมกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เธอยังไม่บิดเบี้ยว เธอยังไม่เป็นอะไร
เฮือก!
ฝันอีกแล้วสินะ เมื่อสองปีก่อน
ผมมองเจ้าตัวเล็กในอ้อมกอด ใบหน้าน้อยจิ้มลิ้มที่อยู่ในห้วงนิทรานั้นกำลังร้องไห้ น้ำตาที่หางตาของเธอเป็นเครื่องยืนยัน
เด็กคนนี้ก็คงไม่เคยลืมเหมือนกันสินะ ผมไม่มั่นใจว่าผมคิดถูกไหมว่าเธอฝันอะไร แต่จากอ้อมกอดที่ค่อยๆรัดแขนผมแน่นขึ้นเรื่อยๆ แน่นเหมือนวันนั้น วันที่ทำให้พวกเราจมอยู่กับฝันร้าย
“เด็กดีๆ”ผมที่ไม่รู้จะทำยังไงก็ได้แต่กอดปลอบเธอ ให้เธอรู้ว่าตอนนี้เธอมีผมแล้ว และเธอจะมีผมไปตลอด
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น